สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับข่าวซาอุดีอาระเบียสมัครใจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 53.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 56.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันยังคงได้ปัจจัยหนุนจากการที่ซาอุดีอาระเบียสมัครใจปรับลดการผลิตน้ำมันลง 1 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 8.125 ล้านบาร์เรล/วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ไปจนถึงสิ้นเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงที่จะโน้มน้าวให้บรรดาผู้ผลิตส่วนใหญ่ของกลุ่มโอเปกพลัสคงการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นเดือนก.พ. ในช่วงเวลาที่มาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ การที่ซาอุดีตัดสินใจแบกรับภาระการปรับลดกำลังการผลิตยังเป็นอีกหนึ่งในเงื่อนไขที่ทำให้ที่ประชุมโอเปกพลัสยอมอนุญาตให้รัสเซียและคาซัคสถานเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันรวมกัน 75,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.พ.และมี.ค.
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า คณะบริหารของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยนายไบเดนส่งสัญญาณว่า เขาจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีนี้ ก่อนที่จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งจะเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5