สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงเล็กน้อยในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลว่ามาตรการล็อกดาวน์จะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งการร่วงลงของสต็อกน้ำมันสหรัฐ
ณ เวลา 23.48 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ปรับตัวลง 1 เซนต์ สู่ระดับ 52.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนมีความกังวลว่าการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในยุโรปและจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และความต้องการใช้น้ำมัน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้ปัจจัยบวกจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย
ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียสมัครใจปรับลดกำลังการผลิตลง 1 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 8.125 ล้านบาร์เรล/วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ไปจนถึงสิ้นเดือนมี.ค.
ทางด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 2 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เตรียมประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในวันนี้ เพื่อเยียวยาชาวสหรัฐและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะมีวงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนม.ค.ในวันนี้ โดยโอเปกยังคงตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปีนี้ แต่เตือนว่าความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ โอเปกคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้ เพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 95.9 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนธ.ค.
โอเปกระบุว่า อุปสงค์น้ำมันในปีนี้ได้แรงหนุนจากการดีดตัวในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการผลิตในภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวขึ้น และยอดขายรถยนต์ที่มากกว่าปีที่แล้ว
นอกจากนี้ โอเปกระบุว่าอุปสงค์น้ำมันในปีที่แล้วลดลง 9.8 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 90 ล้านบาร์เรล/วัน