สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐภายใต้การนำของนายโจ ไบเดน จะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันให้ฟื้นตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 53.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 56.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากนายไบเดนเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 อย่างเป็นทางการเมื่อคืนนี้ตามเวลาไทย ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า คณะรัฐบาลชุดใหม่จะเร่งผลักดันการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หลังจากที่นายไบเดนได้นำเสนอมาตรการ "American Rescue Plan" วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
ทางด้านนางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายไบเดน มิฉะนั้น เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญกับภาวะถดถอยที่ยาวนาน และประสบความเสียหายในระยะยาว
รายงานระบุว่า นายไบเดนมีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการต่างๆ ซึ่งรวมถึงการกลับเข้าสู่ข้อตกลงปารีสเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน และยกเลิกคำสั่งอนุญาตโครงการท่อส่งน้ำมันคีย์สโตน เอ็กซ์แอล มูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสวนทางกับความตั้งใจของอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ที่พยายามผลักดันการสร้างท่อส่งน้ำมันดังกล่าว
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ม.ค.