สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า อิรักมีแผนที่จะปรับลดการผลิตน้ำมันในเดือนม.ค.และก.พ. และข่าวการระงับส่งออกน้ำมันที่ท่าเรือหลายแห่งในลิเบีย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพุธนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 52.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 55.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังมีรายงานว่า อิรักวางแผนที่จะผลิตน้ำมัน 3.6 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนม.ค.และก.พ. ซึ่งต่ำกว่าระดับ 3.86 ล้านบาร์เรล/วันที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตภายใต้ข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิต หรือโอเปกพลัส
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กองกำลังพิทักษ์แหล่งผลิตปิโตรเลียมของลิเบียได้ระงับการส่งออกน้ำมันทั้งหมดจากท่าเรือราส ลานัฟ, ท่าเรือเอสไซเดอร์ และท่าเรือฮากิรา เนื่องจากข้อพิพาทเกี่ยวกับการจ่ายเงิน
อย่างไรก็ดี ตลาดน้ำมันได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนอาจจะต้องปรับลดวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส หลังจากสมาชิกสภาคองเกรสหลายรายทั้งจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ และตั้งข้อสงสัยถึงความจำเป็นของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของปธน.ไบเดน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันพรุ่งนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย