สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวแคบในวันนี้ โดยยังคงทรงตัวในช่วงการซื้อขาย 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนมองหาสัญญาณปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์และอุปทานในตลาด
ณ เวลา 23.33 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลบ 5 เซนต์ หรือ 0.1% สู่ระดับ 52.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย และการลดลงของสต็อกน้ำมันสหรัฐ แต่ก็ยังถูกกดดันจากความล่าช้าในการกระจายวัคซีนโควิด-19 และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่
ซาอุดีอาระเบียจะปรับลดกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 8.125 ล้านบาร์เรล/วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ไปจนถึงสิ้นเดือนมี.ค. ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติคงกำลังการผลิตน้ำมันที่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นเดือนมี.ค.
บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าแถลงว่า วัคซีนโควิด-19 ที่ทางบริษัทพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด จะมีการส่งมอบไปยังสหภาพยุโรป (EU) ต่ำกว่าเป้าหมายจนถึงปลายเดือนมี.ค. อันเนื่องจากปัญหาด้านการผลิต โดยคาดว่าจะมีการลดปริมาณการส่งมอบวัคซีนลง 60% เหลือเพียง 31 ล้านโดส ขณะที่บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ระบุเช่นกันว่า ทางบริษัทจะลดการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 เหลือเพียง 50% ให้แก่ยุโรป โดยจะกระทบการส่งมอบช่วงสิ้นเดือนนี้จนถึงต้นเดือนหน้า
นักลงทุนผิดหวังต่อวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) หลังผลการทดลองพบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพ 72% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ แต่มีประสิทธิภาพลดน้อยลงในภูมิภาคอื่น
นอกจากนี้ ผลการทดลองยังบ่งชี้ว่าวัคซีนของ J&J ไม่สามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้