สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% เหนือระดับ 56 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 23.03 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 1.36 ดอลลาร์ หรือ 2.48% สู่ระดับ 56.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล
ทางด้านกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันจะลดลงสู่ระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปีภายในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย และความคืบหน้าของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียปรับลดกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 8.125 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ไปจนถึงสิ้นเดือนมี.ค. ขณะที่กลุ่มโอเปกพลัส มีกำหนดคงกำลังการผลิตน้ำมันที่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงเวลาดังกล่าว
ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะพบปะกับสมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคเดโมแครตที่ทำเนียบขาวในวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนหวังที่จะผลักดันมาตรการดังกล่าวให้ผ่านการอนุมัติของสภาคองเกรส แม้เผชิญเสียงท้วงติงเกี่ยวกับวงเงินที่สูงถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์จากสมาชิกพรรครีพับลิกัน
ก่อนหน้านี้ ปธน.ไบเดนได้พบปะกับสมาชิกวุฒิสภาสังกัดพรรครีพับลิกันจำนวน 10 รายที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ โดยระบุว่า เขาต้องการเสียงสนับสนุนจากทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตสำหรับการผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว ซึ่งรวมถึงเงินช่วยเหลือผู้ตกงานในสหรัฐ และงบสนับสนุนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ชาวอเมริกัน