สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า การกลับมาผลิตน้ำมันในรัฐเท็กซัสจะเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้กระทบต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซในพื้นที่ดังกล่าว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 2.25 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 61.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 2.33 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 65.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันจะยังคงเผชิญภาวะตึงตัว เนื่องจากการกลับมาผลิตน้ำมันอีกครั้งของอุตสาหกรรมพลังงานในรัฐเท็กซัสจะเป็นไปอย่างล่าช้า หลังจากที่สภาพอากาศที่หนาวเย็นได้กระทบต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์ระบุว่า การขาดแคลนกระแสไฟฟ้าในรัฐเท็กซัสก่อนหน้านี้ได้กระทบต่อการกลั่นน้ำมันราว 1 ใน 5 ของสหรัฐ รวมทั้งการผลิตน้ำมันดิบราว 4 ล้านบาร์เรล/วัน และการผลิตก๊าซธรรมชาติจำนวน 2.1 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มขึ้น หลังจากประเทศต่างๆเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะทำให้มีการเปิดเศรษฐกิจ และเพิ่มความต้องการใช้น้ำมัน
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 มี.ค. โดยมีการคาดการณ์ว่าที่ประชุมจะมีมติผ่อนคลายมาตรการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันหลังเดือนเม.ย. เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันพุธนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย