สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของสัญญาน้ำมัน โดยทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น นอกจากนี้ นักลงทุนยังขายสัญญาน้ำมันดิบออกมาจากความวิตกเกี่ยวกับการประชุมในสัปดาห์หน้าของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 2.03 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 61.50 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปิดตลาดในสัปดาห์นี้ เพิ่มขึ้น 3.8% และปิดตลาดทั้งเดือนก.พ. เพิ่มขึ้นเกือบ 18%
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ซึ่งครบกำหนดส่งมอบแล้ว ลดลง 75 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 66.13 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปิดตลาดในสัปดาห์นี้ เพิ่มขึ้น 5.1% และปิดตลาดในเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นมากกว่า 18% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 1.69 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 64.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้น 0.82% สู่ระดับ 90.8690 เมื่อคืนนี้
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมรมว.น้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 3-4 มี.ค.นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการควบคุมการผลิตน้ำมัน โดยในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มโอเปกพลัสได้ตกลงที่จะจำกัดการผลิตน้ำมันตั้งแต่เดือนก.พ.ไปจนถึงสิ้นเดือนมี.ค. ซึ่งได้ช่วยหนุนราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา