สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 60 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (2 มี.ค) โดยได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส อาจจะประกาศเพิ่มกำลังการผลิตในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 89 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 59.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.ปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 99 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 62.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.ปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังมีการคาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปกพลัสอาจจะพิจารณาให้ปรับเพิ่มกำลังการผลิต โดยกระแสคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปก แสดงความเห็นว่า ตลาดน้ำมันมีแนวโน้มที่สดใส ขณะที่ปัจจัยความไม่แน่นอนที่ต่อเนื่องจากปีที่แล้วได้บรรเทาลง นอกจากนี้ นายบาร์คินโดยังเปิดเผยว่า ความคืบหน้าเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียกำลังเป็นปัจจัยหนุนตลาด
คำกล่าวของนายบาร์คินโดมีขึ้น ก่อนที่กลุ่มโอเปกพลัส จะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตในวันที่ 4 มี.ค.
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ที่ประชุมโอเปกพลัสจะมีมติผ่อนคลายมาตรการปรับลดกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนเม.ย. เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว โดยคาดว่าโอเปกพลัสจะเพิ่มกำลังการผลิต 1.3-1.5 ล้านบาร์เรล/วัน นักลงทุนยังรอดูตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ก.พ.