สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ทะลุ 61 ดอลลาร์ในวันนี้ ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะไม่มีมติเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมวันพรุ่งนี้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัว และจะเพิ่มความต้องการใช้น้ำมัน
ณ เวลา 23.25 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 1.52 ดอลลาร์ หรือ 2.54% สู่ระดับ 61.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
แหล่งข่าวระบุว่า การประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันพรุ่งนี้ ที่ประชุมจะมีมติคงกำลังการผลิตในเดือนเม.ย.
ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์กันว่า ที่ประชุมโอเปกพลัสจะมีมติผ่อนคลายมาตรการปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว โดยคาดว่าโอเปกพลัสจะเพิ่มกำลังการผลิต 1.5 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเม.ย.
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวระบุว่า ที่ประชุมจะตัดสินใจคงกำลังการผลิต เนื่องจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันยังคงมีความไม่แน่นอน อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ มีความกังวลกันว่าการดีดตัวของราคาน้ำมันในระยะนี้มีสาเหตุจากการเก็งกำไรของนักลงทุน แทนที่จะเกิดจากปัจจัยพื้นฐานในตลาด
ขณะเดียวกัน โอเปกคาดว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 96 ล้านบาร์เรล/วัน โดยต่ำกว่าอุปสงค์ในปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ระดับ 100 ล้านบาร์เรล/วัน
ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนเปิดเผยว่า ชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่จะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทุกคนภายในสิ้นเดือนพ.ค. ซึ่งเร็วกว่ากำหนดถึง 2 เดือน โดยการฉีดวัคซีนในวงกว้างจะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้น
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติให้ความเห็นชอบต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา ก่อนที่จะส่งให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามรับรองเป็นกฎหมาย
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ คาดว่า กระบวนการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จะหมดอายุลง