สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะไม่มีมติเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมวันนี้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 1.53 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 61.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 1.37 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 64.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังสื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ในการประชุมวันนี้ (4 มี.ค.) กลุ่มโอเปกพลัสจะมีมติคงกำลังการผลิตในเดือนเม.ย.
ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์กันว่า ที่ประชุมโอเปกพลัสจะมีมติผ่อนคลายมาตรการปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว โดยคาดว่าโอเปกพลัสจะเพิ่มกำลังการผลิต 1.5 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 13.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ก.พ. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.9 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 9.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 3.9 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 21.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล