ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นเหนือระดับ 67 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ หลังมีรายงานว่ากลุ่มกบฏฮูตีของเยเมนได้ยิงโดรนและขีปนาวุธเพื่อหวังโจมตีแห่งอุตสาหกรรมน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งรวมถึงโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทซาอุดี อารามโค
ณ เวลา 07.23 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1.71% แตะที่ระดับ 67.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
กลุ่มกบฏฮูตีของเยเมนได้ยิงโดรนและขีปนาวุธเพื่อหวังโจมตีแห่งอุตสาหกรรมน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งรวมถึงโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทซาอุดี อารามโค อย่างไรก็ดี กองทัพซาอุดีอาระเบียสามารถยิงสกัดการโจมตีดังกล่าวได้ทัน ซึ่งทำให้แหล่งผลิตน้ำมันไม่ได้รับความเสียหาย
กระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบียออกแถลงการณ์ว่า การโจมตีทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงแต่จะพุ่งเป้าทำลายซาอุดีอาระเบียเท่านั้น แต่ยังเป็นการทำลายเสถียรภาพและความมั่นคงของอุปทานพลังงานโลก รวมทั้งเศรษฐกิจโลกด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น มีโดรนลำหนึ่งบินขึ้นจากทะเลและพุ่งเป้าโจมตีถังเก็บน้ำมันที่ท่าเรือรัสทานูราซึ่งหนึ่งในเมืองท่าน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลก แต่กองทัพซาอุดีอาระเบียได้ยิงสกัดเอาไว้ได้ทันและทำลายโดรนลำดังกล่าวก่อนที่โดรนจะเคลื่อนตัวถึงเป้าหมาย
จากนั้นไม่นาน พบขีปนาวุธที่พยายามเล็งมายังพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมน้ำมันของบริษัทอารามโคซึ่งตั้งอยู่ในเมืองดาห์ราน โดยพื้นที่ดังกล่าวมีพนักงานและครอบครัวของพนักงานพักอาศัยอยู่ แต่กองทัพซาอุดีอาระเบียได้ยิงสกัดไว้ทันเช่นกัน และพบชิ้นส่วนแหลมคมของขีปนาวุธตกใกล้กับพื้นที่ในนิคมของอารามโค
เหตุการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ถึงสงครามเยเมนที่ยืดเยื้อมานานหลายปี ระหว่างกลุ่มกบฎฮูตี และรัฐบาลเยเมนที่ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรนานาชาติที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย แม้สหรัฐพยายามเรียกร้องให้สองฝ่ายยุติการเป็นศัตรูกันก็ตาม