สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่หลายประเทศในยุโรปยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 22 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 65.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 34 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 68.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ในยุโรปอาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน โดยรายงานล่าสุดระบุว่า รัฐบาลอิตาลีเตรียมประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศในช่วงวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ ซึ่งจะตรงกับช่วงต้นเดือนเม.ย.นี้ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้อิตาลีมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลกคือ 3,223,142 ราย
ทางด้านนายแพทย์แอนโทนี ฟอซี แพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว ได้เตือนบรรดาผู้ว่าการรัฐต่างๆ ในสหรัฐว่า การต่อสู้กับโควิด-19 ในสหรัฐนั้นยังไม่ถึงจุดสิ้นสุด และขอให้ชาวอเมริกันปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข
คำเตือนของนายแพทย์ฟอซีเกิดขึ้นหลังจากที่ยุโรปเผชิญกับการระบาดรอบใหม่ โดยมีบางประเทศรายงานถึงการระบาดเป็นรอบที่สาม ขณะที่การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในยุโรปเองก็ไม่เป็นไปตามแผน นอกจากนี้ นายแพทย์ฟอซีระบุว่า การที่ยุโรปเผชิญกับการแพร่ระบาดรอบใหม่นั้น ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการระบาด
อย่างไรก็ดี ข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของจีนช่วยสกัดแรงลบของราคาน้ำมันในระหว่างวัน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวานนี้ว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของจีน ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ พุ่งขึ้น 35.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. 2564 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวเป็นวงกว้าง
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลาประมาณ 22.30 น.ตามเวลาไทย