สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดทรุดตัวลงกว่า 7% เมื่อคืนนี้ (18 มี.ค) ทำสถิติปิดในแดนลบติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่ประเทศยุโรปยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 4.60 ดอลลาร์ หรือ 7.1% ปิดที่ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. 2564
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 4.72 ดอลลาร์ หรือ 6.9% ปิดที่ 63.28 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. 2564
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19 ในยุโรป รวมทั้งการที่หลายประเทศในยุโรประงับใช้วัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งส่งผลให้แผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในภูมิภาคแห่งนี้เป็นไปอย่างล่าช้า
รายงานล่าสุดระบุว่า นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสประกาศล็อกดาวน์กรุงปารีสและแคว้นอื่นๆอีกหลายแห่งเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ขณะที่อังกฤษมีแผนที่จะชะลอการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเดือนหน้า เนื่องจากปัญหาด้านการขนส่งวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าจากประเทศอินเดีย และอังกฤษยังจำเป็นต้องทดสอบความเสถียรของวัคซีนอีกจำนวน 1.7 ล้านโดส
นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยลบต่อตลาดน้ำมัน เนื่องจากทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาแพงขึ้นและมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.48% แตะที่ 91.8579 เมื่อคืนนี้