สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 6% เมื่อคืนนี้ (24 มี.ค) หลังมีรายงานว่า เรือ Ever Given ซึ่งเป็นหนึ่งในเรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้เกยตื้นกีดขวางเส้นทางสัญจรในคลองสุเอซของอียิปต์ ส่งผลให้การขนส่งสินค้าทางทะเลทั่วโลกต้องหยุดชะงัก
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 3.42 ดอลลาร์ หรือ 5.9% ปิดที่ 61.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 3.62 ดอลลาร์ หรือ 6% ปิดที่ 64.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากสื่อรายงานว่า เรือ Ever Given เรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์สัญชาติปานามาซึ่งขนส่งสินค้าระหว่างเอเชียและยุโรป ได้เกยตื้นอยู่ในคลองสุเอซมาตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา (23 มี.ค.) โดยเรือ Ever Given มีความยาวเกือบ 400 เมตร กว้าง 59 เมตร และเป็นหนึ่งในเรือขนส่งสินค้าลำใหญ่ที่สุดในโลก โดยสามารถจุตู้คอนเทนเนอร์ได้ถึง 20,000 ตู้ในแต่ละเที่ยว
ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เรือ Ever Given เกยตื้นขวางกลางคลองสุเอซ อย่างไรก็ดี GAC บริษัทขนส่งและโลจิสติกส์ระดับโลกชี้แจงว่า เรือ Ever Given อาจเกิดปัญหาไฟฟ้าดับขณะมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ
ทางด้านบริษัท Evergreen Marine Corp บริษัทขนส่งทางเรือรายใหญ่ของไต้หวันซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแลเรือลำนี้ระบุในแถลงการณ์ว่า เรือ Ever Given ถูกกระแสลมแรงพัดเข้าตัวเรือขณะแล่นจากทะเลแดงเข้าคลองสุเอซ โดยที่ไม่มีตู้คอนเทนเนอร์ตกลงสู่ทะเลแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้การขนส่งสินค้าทางทะเลทั่วโลกต้องหยุดชะงัก และเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ แม้สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.912 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 มี.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 272,000 บาร์เรล