สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบมื่อคืนนี้ (30 มี.ค) หลังมีรายงานว่า การสัญจรในคลองสุเอซเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ภายหลังจากปฏิบัติการกู้เรือ Ever Given ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.01 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 60.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 84 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 64.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังมีรายงานว่า ปฏิบัติการกู้เรือ Ever Given ในคลองสุเอซประสบความสำเร็จ ซึ่งทำให้การขนส่งน้ำมันสามารถดำเนินต่อไป โดยขณะนี้เรือสินค้าสามารถแล่นผ่านคลองสุเอซได้อีกครั้ง ทางด้านหน่วยงานกำกับดูแลคลองสุเอซคาดการณ์ว่าจะสามารถระบายเรือที่จอดนิ่ง 422 ลำได้หมดภายใน 3 วันครึ่ง
คลองสุเอซเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าราว 12% ของการค้าโลก ขณะที่วารสาร Lloyd?s List ประมาณการว่า มูลค่าสินค้าบนเรือที่แล่นผ่านคลองแห่งนี้อยู่ในระดับสูงกว่า 9 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน หรือราว 400 ล้านดอลลาร์ต่อชั่วโมง
นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยลบต่อตลาดน้ำมัน เนื่องจากทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาแพงขึ้นและมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.39% แตะที่ 93.3004 เมื่อคืนนี้
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันในเดือนพ.ค. ขณะที่แหล่งข่าวคาดว่าซาอุดีอาระเบียจะยังคงปรับลดกำลังการผลิตถึงเดือนมิ.ย. โดยจะสมัครใจลดกำลังการผลิตต่อไป
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของไอเอชเอส มาร์กิต คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 มี.ค.