สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากแนวโน้มปริมาณน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากบรรดาผู้ผลิตรายใหญ่ และตลาดน้ำมันยังถูกถ่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลงซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 28 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 59.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 25 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 62.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 3.5% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 2.9%
ตลาดน้ำมันยังคงถูกกดดันจากการที่กลุ่มโอเปกพลัสตัดสินใจที่จะปรับเพิ่มการผลิตน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพ.ค.-ก.ค.
นักวิเคราะห์รายหนึ่งระบุว่า อุปสงค์น้ำมันจะถูกบดบังจากการคาดการณ์ที่ว่า การผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัสอาจจะอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในสิ้นเดือนก.ค.
เบเกอร์ ฮิวจ์ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะต้องเพิ่มแท่นขุดเจาะเพื่อรักษาระดับการผลิตให้ทรงตัว
ตลาดยังถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า มาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ในบางพื้นที่ของโลก และปัญหาเกี่ยวกับความล่าช้าของโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 นั้น อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
นักวิเคราะห์ของบริษัท Axi คาดว่า ราคาน้ำมันจะปรับตัวอยู่ที่ราว 60-70 ดอลลาร์
ส่วนนักวิเคราะห์ของ Again Capital ระบุว่า แรงผลักดันในตลาดน้ำมันนั้นขึ้นอยู่กับความเร็วของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19, การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และมาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่เพื่อสกัดกั้นโรคระบาด ซึ่งส่งผลให้ตลาดปรับตัวไซด์เวย์
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า การเจรจาเพื่อนำอิหร่านและสหรัฐกลับเข้าร่วมข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 นั้นกำลังมีความคืบหน้า แต่เจ้าหน้าที่อิหร่านระบุว่า ยังคงมีความขัดแย้งกับสหรัฐเกี่ยวกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน