สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 เม.ย.) หลังมีรายงานว่า กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนได้ใช้โดรนและขีปนาวุธโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงมุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 59.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 63.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากมีรายงานว่า กลุ่มกบฏฮูตีได้ใช้โดรนและขีปนาวุธโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียเมื่อวานนี้ ซึ่งรวมถึงโรงกลั่นน้ำมันบางแห่งของบริษัทซาอุดีอารามโค ขณะที่นักลงทุนมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเพิ่มความตึงเครียดในตะวันออกกลางและอาจเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันสูงขึ้นอีก
ทั้งนี้ สงครามกลางเมืองในเยเมนถือเป็นการทำสงครามตัวแทนระหว่างซาอุดีอาระเบียและอิหร่าน โดยซาอุดีอาระเบียให้การสนับสนุนรัฐบาลของประธานาธิบดีอับดราบูห์ มันซูร์ ฮาดี แต่อิหร่านให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏฮูตีที่มีความจงรักภักดีต่ออดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์
นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในสหรัฐและยุโรป อีกทั้งยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ "60 Minutes" ของสถานีโทรทัศน์ CBS เมื่อวันอาทิตย์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงานมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และการที่รัฐบาลสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนนั้น จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวเร็วขึ้น
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลเตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจเผชิญกับความเสี่ยงหากมีการเปิดเศรษฐกิจรวดเร็วเกินไป
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย