สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งรายงานการส่งออกน้ำมันของซาอุดีอาระเบียลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน อย่างไรก็ดี ความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในอินเดีย ได้สกัดแรงบวกในตลาดน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 63.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 67.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.53% สู่ระดับ 91.0709 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังมีรายงานว่า การส่งออกน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบียในเดือนก.พ.ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน เนื่องจากซาอุดีอาระเบียสมัครใจปรับลดกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงเวลาดังกล่าว โดยมีเป้าหมายที่จะพยุงราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน โดยรายงานระบุว่า ขณะนี้อินเดียมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงเป็นอันดับสองรองจากสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลอินเดียประกาศล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่
รัฐบาลฮ่องกงประกาศระงับเที่ยวบินจากอินเดีย ปากีสถาน และฟิลิปปินส์ เป็นเวลา 14 วัน โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ (20 เม.ย.) หลังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์จากอังกฤษหรือสายพันธุ์ N501Y จากเที่ยวบินของทั้ง 3 ประเทศในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
ทางด้านรัฐบาลอังกฤษประกาศห้ามผู้ที่เดินทางจากอินเดียเข้าประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันศุกร์นี้ อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย