สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในอินเดียและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันมากเป็นอันดับ 3 และอันดับ 4 ของโลก จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 23 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 61.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 46 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 65.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในประเทศอินเดียและญี่ปุ่น โดยกระทรวงสาธารณสุขอินเดียเปิดเผยวานนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ 352,991 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทะลุ 17 ล้านราย ขณะเดียวกัน พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2,812 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 195,123 ราย
ทั้งนี้ อินเดียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกินกว่า 300,000 รายเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน
ทางด้านนายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์สำหรับกรุงโตเกียว, เกียวโต, โอซาก้า และเฮียวโงะ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงวันหยุดเทศกาลโกลเด้นวีคระหว่างวันที่ 25 เม.ย. จนถึงวันที่ 11 พ.ค. ส่งผลให้ร้านอาหารและบาร์จะไม่สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะที่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ปิดให้บริการชั่วคราว
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในตลาด เนื่องจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะเพิ่มกำลังการผลิต 350,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ค., เพิ่มการผลิต 350,000 บาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. และเพิ่มการผลิต 441,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค. ตามมติการประชุมซึ่งมีขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนเม.ย.
ส่วนซาอุดีอาระเบียจะยกเลิกการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจ 1 ล้านบาร์เรล/วันที่เคยดำเนินการมาตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา โดยจะเพิ่มการผลิต 250,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. และเพิ่มการผลิต 350,000 บาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. รวมทั้งเพิ่มการผลิต 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค.
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย