สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) หลังมีรายงานว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุด Memorial Day นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของจีนและสหรัฐ รวมทั้งผลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสซึ่งบ่งชี้ว่า ที่ประชุมมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอย่างค่อยเป็นค่อยไป
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 67.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 70.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดได้รับปัจจัยหนุนหลังจาก GasBuddy ซึ่งเป็นบริษัทติดตามการให้บริการด้านพลังงานในสหรัฐระบุว่า ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาล Memorial Day ที่ผ่านมานั้น สูงกว่าระดับเฉลี่ย 4 สัปดาห์อยู่ถึง 9.6% ซึ่งเป็นความต้องการใช้น้ำมันสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนของปี 2562
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของจีนและสหรัฐ โดยผลสำรวจของมาร์กิตและไฉซินระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนดีดตัวขึ้นแตะระดับ 52 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 51.9 ในเดือนเม.ย. โดยดัชนี PMI เดือนพ.ค.ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2563 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 51.9 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศและการส่งออก
ทางด้านไอเอชเอส มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 62.1 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 60.5 ในเดือนเม.ย. ทั้งนี้ดัชนี PMI เดือนพ.ค.ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนพ.ค.2550 โดยได้แรงหนุนจากยอดคำสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 61.2 ในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นจากเดือนเม.ย. ที่ระดับ 60.7 โดยได้รับแรงหนุนจากยอดคำสั่งซื้อใหม่ ยอดการผลิต และการจ้างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เพื่อผลิตสินค้าให้ทันความต้องการที่สูงขึ้น
สำหรับผลการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสนั้น ที่ประชุมได้ตกลงร่วมกันว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนก.ค.นี้ ซึ่งเป็นไปตามการตัดสินใจในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาของโอเปกที่จะกลับไปผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวันเข้าสู่ตลาดระหว่างเดือนพ.ค.-ก.ค.
อย่างไรก็ตาม โอเปกพลัสยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการผลิตหลังจากเดือนก.ค. โดยกลุ่มโอเปกพลัสจะประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 1 ก.ค.นี้
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 1.7 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 พ.ค.