สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี การที่สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงมากกว่า 5 ล้านบาร์เรล ถือเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยสกัดแรงลบในตลาดน้ำมันเมื่อคืนนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 68.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 71.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 28 พ.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี ข้อมูลของ EIA ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐร่วงลง 5.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล โดยข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลง 5.360 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 พ.ค.
บรรยากาศการซื้อขายโดยรวมในตลาดยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากมติของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า อิหร่านยังไม่มีแนวโน้มที่จะส่งน้ำมันออกสู่ตลาดในเร็วๆนี้ เนื่องจากความล่าช้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐและอิหร่าน
ทั้งนี้ ที่ประชุมโอเปกพลัสเห็นพ้องที่จะดำเนินการผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 2.1 ล้านบาร์เรล/วันระหว่างเดือนพ.ค.-ก.ค. อย่างไรก็ตาม โอเปกพลัสยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการผลิตหลังจากเดือนก.ค. โดยกลุ่มโอเปกพลัสจะประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 1 ก.ค.นี้
มกุฎราชกุมาร อับดุลลาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบียได้แสดงความเห็นว่า อุปสงค์ที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในสหรัฐและจีน รวมทั้งการแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว จะช่วยให้ตลาดน้ำมันโลกกลับสู่ภาวะสมดุลได้เร็วขึ้น