สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ขานรับสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะกลับคืนสู่ระดับก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาดได้ภายในสิ้นปีหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 70.91 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2561 และเพิ่มขึ้นเกือบ 1.9% ในรอบสัปดาห์นี้ โดยเป็นการปรับตัวขึ้นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 72.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2562 และปรับตัวขึ้น 1.1% ในรอบสัปดาห์นี้
ตลาดน้ำมันได้แรงหนุน หลัง IEA ระบุในรายงานภาวะตลาดน้ำมันเดือนมิ.ย.ว่า บรรดาผู้ผลิตจำเป็นจะต้องเพิ่มปริมาณการผลิตเพื่อรองรับการฟื้นตัวของอุปสงค์
IEA คาดว่า อุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ก่อนจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้นอีกในปีหน้าแตะ 100.6 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในสิ้นปี 2565
นอกจากนี้ IEA คาดว่า ความต้องการน้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 5.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2564 และจะเพิ่มขึ้นอีก 3.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2565 หลังจากที่ลดลงมากเป็นประวัติการณ์ 8.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2563