สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% ใกล้แตะ 72 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่คาดว่าอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกจะฟื้นตัวขึ้นจากการที่ประเทศต่างๆเริ่มเปิดเศรษฐกิจ
ณ เวลา 22.33 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.30% สู่ระดับ 71.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และแนวโน้มการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมัน ท่ามกลางความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง
การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในสหรัฐและยุโรป ทำให้ประชาชนมีการเดินทางเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การสัญจรทางอากาศและทางรถยนต์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความต้องการใช้น้ำมัน
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกจะฟื้นตัวในช่วงปลายปี 2565 กลับสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ IEA ยังเรียกร้องให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังคงถูกกดดันจากปัจจัยการแข็งค่าของดอลลาร์ และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ เป็นกรรมการเฟด 1 ใน 7 รายที่คาดว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่จะดำเนินไปอย่างยาวนาน
"ผมคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปีหน้าเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่จะพุ่งแตะ 3% ในปีนี้ และจะอยู่ที่ 2.5% จนถึงปี 2565 โดยสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด" นายบูลลาร์ดกล่าว
นายบูลลาร์ดระบุว่า การที่เฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดในสัปดาห์นี้ ถือเป็นการรับมือตามปกติต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และโดยเฉพาะเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ ขณะที่สหรัฐทำการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากประกาศล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19