สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) โดยปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงเชื่อมั่นเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 74.05 ดอลลาร์/บาร์เรล และเพิ่มขึ้น 3.9% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 76.18 ดอลลาร์/บาร์เรล และเพิ่มขึ้น 3.6% ในรอบสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และแนวโน้มการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมัน ท่ามกลางความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง
การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในสหรัฐและยุโรป ทำให้ประชาชนมีการเดินทางเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การสัญจรทางอากาศ และทางรถยนต์มีปริมาณเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความต้องการใช้น้ำมัน
บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ซึ่งจะกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันในเดือนส.ค. โดยคาดว่าโอเปกพลัสจะพิจารณาปัจจัยต่างๆ ได้แก่ อุปสงค์น้ำมันจากสหรัฐ ยุโรป และจีน รวมทั้งแนวโน้มที่อิหร่านจะกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาด
นักลงทุนคาดว่า กลุ่มโอเปกพลัสจะมีท่าทีระมัดระวังในการตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนส.ค.
ด้านนายแอนโทนี บลินเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐยอมรับว่า การเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 กับอิหร่าน ยังคงมีประเด็นที่ต้องหารือกันต่อไป แต่เขาหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะมีความคืบหน้ามากขึ้นในการเจรจาครั้งต่อไป
หากทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลง ก็จะทำให้สหรัฐยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน และส่งผลให้อิหร่านสามารถกลับมาส่งออกน้ำมันอีกครั้ง