สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 75 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) ขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส อาจจะเพิ่มกำลังผลิตน้อยกว่าที่คาดหมายไว้ก่อนหน้านี้ โดยกลุ่มโอเปกพลัสได้เลื่อนการประชุมระดับรัฐมนตรีออกไปเป็นวันศุกร์ที่ 2 ก.ค. เพื่อให้ประเทศสมาชิกมีเวลามากขึ้นในการหารือกันเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.76 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 75.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2561
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 75.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
กลุ่มโอเปกพลัสได้ตัดสินใจเลื่อนการประชุมระดับรัฐมนตรีเป็นวันนี้ (2 ก.ค.) เพื่อให้ประเทศสมาชิกมีเวลามากขึ้นในการหารือกันเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมัน โดยการตัดสินใจเลื่อนการประชุมดังกล่าวนั้นเป็นไปตามคำเรียกร้องของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC)
รายงานข่าวระบุว่า ในเบื้องต้นนั้น ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียได้เสนอให้โอเปกพลัสปรับเพิ่มกำลังการผลิต 400,000 บาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนส.ค.-ธ.ค. 2564 แต่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้คัดค้านข้อเสนอดังกล่าวในระหว่างการประชุม พร้อมกับเรียกร้องมีการเปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานในการกำหนดกำลังการผลิตน้ำมัน
สำหรับการประชุมโอเปกพลัสในครั้งนี้ จะเป็นการประชุมเพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันในเดือนส.ค. โดยคาดว่าจะมีการพิจารณาปัจจัยต่างๆ ได้แก่ อุปสงค์น้ำมันจากสหรัฐ ยุโรป และจีน รวมทั้งแนวโน้มที่อิหร่านจะกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาด
นายแอนโทนี บลินเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ยอมรับว่าการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 กับอิหร่าน ยังคงมีประเด็นที่ต้องหารือกันต่อไป แต่เขาหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะมีความคืบหน้ามากขึ้นในการเจรจาครั้งต่อไป
ทั้งนี้ หากสหรัฐและอิหร่านสามารถบรรลุข้อตกลง ก็จะทำให้สหรัฐยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน และส่งผลให้อิหร่านสามารถกลับมาส่งออกน้ำมันอีกครั้ง
เอเอ็นแซดและไอเอ็นจีคาดการณ์ว่า โอเปกพลัสจะตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิต 500,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า หากโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิต 500,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค. หรือต่ำกว่าระดับดังกล่าว ก็จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นต่อไป แต่หากโอเปกพลัสตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรล/วัน หรือมากกว่านั้น ก็จะส่งผลให้ราคาน้ำมันเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่