สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) โดยฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกจะยังตึงตัวไปจนถึงสิ้นปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 72.07 ดอลลาร์/บาร์เรล และเพิ่มขึ้น 0.7% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 74.10 ดอลลาร์/บาร์เรล และเพิ่มขึ้น 0.7% ในรอบสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าตลาดจะยังคงเผชิญกับภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวไปจนถึงสิ้นปีนี้
ถึงแม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเดือนละ 400,000 บาร์เรล/วันนับตั้งแต่เดือนส.ค.ไปจนถึงเดือนธ.ค. แต่ก็เชื่อกันว่าปริมาณน้ำมันในตลาดโลกจะยังไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ที่คาดว่าจะพุ่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากคาดว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้างจะช่วยยับยั้งการแพร่ระบาด และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจรวมถึงความต้องการใช้น้ำมัน
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารบาร์เคลย์ได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปีนี้สู่ระดับ 69 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยระบุว่าปัจจัยด้านอุปสงค์และอุปทานบ่งชี้ว่า ราคาน้ำมันอาจจะดีดตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า