สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการแพร่ระบาดทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาอาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 71.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 74.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมีสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสสายพันธุ์เดลตา
Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมทั่วโลกมีจำนวน 195,048,423 ราย โดยสหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก ซึ่งอยู่ที่ 35,202,407 ราย รองลงมาคืออินเดีย 31,417,313 ราย และบราซิล 19,688,663
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกอยู่ที่ 4,179,014 ราย โดยสหรัฐเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก ซึ่งอยู่ที่ 626,769 ราย ตามมาด้วยบราซิล 549,999 ราย และอินเดีย 421,117 ราย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลจีนกำลังปราบปรามกลุ่มผู้นำเข้าน้ำมันที่ใช้โควต้าการนำเข้าในทางมิชอบ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่จะทำให้การนำเข้าน้ำมันดิบของจีนชะลอตัวลงอีก หลังจากที่ยอดนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในช่วงครึ่งปีแรกลดลง 3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือเป็นการหดตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2556 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน
รายงานยังระบุด้วยว่า ผู้กลั่นน้ำมันอิสระของจีนกำลังเผชิญกับโควตาการนำเข้าที่เข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลได้เพิ่มการตรวจสอบการนำเข้าน้ำมันดิบโดยผู้กลั่นน้ำมันของรัฐและเอกชน ท่ามกลางความพยายามที่จะควบคุมกำลังการกลั่นส่วนเกิน และควบคุมการปล่อยมลพิษ
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 ตามเวลาไทย