สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันของผู้บริโภค
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 70 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 70.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 48 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 72.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงหลุดจากระดับ 71 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลา ได้สร้างความวิตกกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า ค่าเฉลี่ยในรอบ 7 วันของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในสหรัฐอยู่ที่ 72,790 รายเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว สูงกว่าระดับ 68,700 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว
ขณะเดียวกันมีรายงานว่าพื้นที่ทางตอนใต้ของสหรัฐ รวมถึงรัฐฟลอริดา รัฐลุยเซียนา และรัฐอาร์คันซอ กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น และเริ่มจะไม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างทั่วถึงแล้ว
ทางด้านจีนได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่บางส่วนของเมืองอู่ฮั่นในมณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นเมืองที่พบการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นครั้งแรกของโลกเมื่อปี 2562 หลังเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาเพิ่มอีก 3 ราย
นายหลี่ เทา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมืองอู่ฮั่นเปิดเผยในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า เมืองอู่ฮั่นซึ่งมีประชากรประมาณ 11 ล้านคน จะเร่งปูพรมตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้ประชาชนทุกคน โดยใช้วิธีการทดสอบกรดนิวคลีอิก
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 4 ล้านบาร์เรล