สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) ขานรับตัวเลขชสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 68.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.2564
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 72.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.2564
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ส.ค. ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันสัปดาห์ที่ 3 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 400,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการที่เม็กซิโกลดการผลิตน้ำมันมากกว่า 4 แสนบาร์เรล/วัน หลังจากที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่ง และคาดว่าจะสามารถกลับมาเดินเครื่องอีกครั้งในวันที่ 30 ส.ค.