สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัวจากการที่บริษัทน้ำมันหลายแห่งพากันยุติการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ก่อนที่พายุเฮอริเคนจะพัดถล่มในช่วงสุดสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 68.74 ดอลลาร์/บาร์เรล และพุ่งขึ้น 10.6% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.63 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 72.70 ดอลลาร์/บาร์เรล และพุ่งขึ้น 11.5% ในรอบสัปดาห์นี้
บริษัทน้ำมันหลายแห่งซึ่งรวมถึงบีพี, บีเอชพี, เชฟรอน, อีควินอร์ และรอยัลดัตช์เชลล์ได้เริ่มอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกแล้ว โดยบริษัทบีเอชพี และบีพีประกาศระงับการผลิตน้ำมัน ขณะที่พายุโซนร้อนไอดา (Ida) กำลังก่อตัวขึ้นในทะเลแคริบเบียน และคาดว่าจะกลายเป็นพายุเฮอริเคนพัดถล่มอ่าวเม็กซิโกในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกผลิตน้ำมันดิบคิดเป็นสัดส่วนราว 17% ของสหรัฐ ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันตามแนวชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกกลั่นน้ำมันคิดเป็นสัดส่วนราว 45% ของสหรัฐ