สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) หลังมีรายงานว่าพายุเฮอริเคนไอดาได้อ่อนกำลังลงแล้ว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมวันพุธนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.68% ปิดที่ 69.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 0.98% ปิดที่ 73.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย หลังมีรายงานว่า พายุไอดาได้อ่อนกำลังลงจนกลายเป็นเฮอริเคนระดับที่ 1 หลังจากทวีความรุนแรงสู่ระดับ 4 และพัดถล่มอ่าวเม็กซิโกในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้บริษัทน้ำมันหลายแห่งพากันยุติการผลิตน้ำมันในพื้นที่ดังกล่าว
ในช่วงแรกนั้น สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งใกล้แตะระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Bureau of Safety and Environmental Enforcement - BSEE) เปิดเผยว่า ณ วันอาทิตย์ที่ 29 ส.ค. บริษัทพลังงานได้ระงับการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกในปริมาณ 1.74 ล้านบาร์เรล/วัน หลังจากพายุเฮอริเคนไอดาพัดเข้าชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก
ทั้งนี้ แท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกให้ผลผลิตคิดเป็น 17% ของการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐ ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันตามแนวชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกให้ผลผลิตคิดเป็น 45% ของการกลั่นน้ำมันในสหรัฐ
นักลงทุนจับตาการประชุมโอเปกพลัสในวันพุธนี้ โดยที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 400,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่ตัวแทนของกลุ่มโอเปกพลัสหลายรายคาดการณ์ว่าที่ประชุมจะเห็นชอบต่อการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน แม้คูเวตระบุว่าอาจคัดค้านการปรับเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย