สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในการประชุมเมื่อวานนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 68.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 71.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันเป็นไปอย่างผันผวนเมื่อคืนนี้ โดยแม้ว่าตลาดได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงมากกว่าคาด แต่ราคาน้ำมันก็ได้รับแรงกดดันหลังจากกลุ่มโอเปกพลัสได้บรรลุข้อตกลงเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วัน ในการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันเมื่อวานนี้
แถลงการณ์ของโอเปกพลัสระบุว่า "ถึงแม้ว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงสร้างความไม่แน่นอน แต่ปัจจัยพื้นฐานของตลาดได้แข็งแกร่งขึ้น ขณะที่สต็อกน้ำมันในกลุ่มประเทศ OECD ยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ"
ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนต.ค. เช่นเดียวกับที่ได้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ย.
สำหรับการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของโอเปกพลัสครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 4 ต.ค.
ทางด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 7.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 500,000 บาร์เรล