สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยบวกจากการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งจะช่วยผ่อนคลายความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากภาวะตึงตัวของปริมาณน้ำมันในสหรัฐ หลังได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนไอดา
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 69.72 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 0.6% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.47 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 72.92 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 0.4% ในรอบสัปดาห์นี้
นักลงทุนคาดหวังว่า การเจรจาระหว่างปธน.ไบเดนและปธน.สี จิ้นผิงในวันศุกร์ จะปูทางไปสู่การลดความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มอุปสงค์น้ำมันในตลาด
การเจรจากันทางโทรศัพท์ระหว่างปธน.ไบเดนและปธน.สี จิ้นผิง ถือเป็นการหารือกันครั้งแรกระหว่างผู้นำทั้งสองนับตั้งแต่เดือนก.พ. และเป็นครั้งที่ 2 ของปธน.ไบเดนนับตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค.
ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากความล่าช้าในการฟื้นฟูกำลังการผลิตของบรรดาผู้ผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก หลังได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนไอดา
ทั้งนี้ บริษัทน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกยังคงไม่สามารถฟื้นฟูการผลิตได้เต็มที่ แม้พายุเฮอริเคนไอดาได้พัดผ่านบริเวณดังกล่าวแล้ว ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดลดลงราว 17.5 ล้านบาร์เรล
สำนักงานความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมของสหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการเมื่อวันศุกร์ว่า การผลิตน้ำมันประมาณ 66.36% ในอ่าวเม็กซิโกยังคงปิดทำการอยู่ เช่นเดียวกับการผลิตก๊าซธรรมชาติ 75.55% ที่ยังคงปิดดำเนินการอยู่เช่นกัน