สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลงติดต่อกันสัปดาห์ที่ 7 ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 73.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 77.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นเหนือระดับ 73 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ ขานรับสัญญาณที่บ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 413.96 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2561
ข้อมูลของ EIA สอดคล้องกับที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล
ขณะเดียวกันตลาดยังคงได้แรงหนุนจากภาวะน้ำมันตึงตัวจากอิทธิพลของพายุเฮอริเคนนิโคลัสและไอดา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในรัฐเท็กซัสและอ่าวเม็กซิโก
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังช่วยให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.47% สู่ระดับ 93.0335 เมื่อคืนนี้