สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐไม่มีแผนที่จะระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR)
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 78.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 81.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในช่วงแรกนั้น สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์รายงานว่า นางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีพลังงานสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาระบายน้ำมันจากคลังสำรอง SPR เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันเบนซินในประเทศ
อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมา หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ขณะนี้รัฐบาลสหรัฐยังไม่แผนที่จะระบายน้ำมันออกจากคลังสำรอง SPR และสหรัฐมีเครื่องมือหลายอย่างที่จะสามารถแก้ปัญหาภาวะอุปทานพลังงานตึงตัวในตลาด
ก่อนหน้านี้ตลาดมีความกังวลว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อาจจะพิจารณาเรื่องการระบายน้ำมันออกจากคลัง SPR หรืออาจระงับการส่งออกน้ำมัน เพื่อฉุดต้นทุนราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวลดลง และเพื่อรองรับความต้องการน้ำมันในประเทศ
ทางด้านโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า หากรัฐบาลสหรัฐระบายน้ำมันจาก SPR จำนวน 60 ล้านบาร์เรล ทางบริษัทก็อาจจะลดประมาณการราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในช่วงสิ้นปีสู่ระดับ 87 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล