สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็นในประเทศจีนทำให้ความต้องการใช้พลังงานในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 82.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2557
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 85.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. 2561
รายงานระบุว่า จีนกำลังเผชิญกับสภาพอากาศหนาวจัดในขณะที่กำลังเข้าสู่ฤดูหนาว โดยเฉพาะทางตอนเหนือของประเทศ ส่งผลให้จีนมีความต้องการใช้พลังงานสำหรับการทำความร้อนเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าหันมาใช้น้ำมันดิบและน้ำมันดีเซล หลังการพุ่งขึ้นของราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปิดเศรษฐกิจของหลายประเทศ รวมทั้งจากการที่ซาอุดีอาระเบียได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องจากสหรัฐที่ต้องการให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกเพื่อสกัดราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นในขณะนี้
ทั้งนี้ โอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ย. แม้ว่าหลายประเทศ เช่น สหรัฐและอินเดีย ต่างกดดันให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน
นักลงทุนจับตาการประชุมของโอเปกพลัสในวันที่ 4 พ.ย.เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันสำหรับเดือนธ.ค.
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย