สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) และปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากภาวะปริมาณน้ำมันที่ตึงตัวอย่างต่อเนื่อง, การผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทาง, การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐที่ฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า และการคาดการณ์อุปสงค์พลังงานที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุด
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.26 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 83.76 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 2.5% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 85.53 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 0.8% ในรอบสัปดาห์นี้
นายคาร์สเทน ฟริทช์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานของคอมเมิร์ซแบงก์ รีเสิร์ชเปิดเผยในวันศุกร์ว่า อุปทานน้ำมันยังคงตึงตัว เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะอยู่ที่ 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงสิ้นปี
กลุ่มโอเปกและสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุในรายงานประจำเดือนที่เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ตลาดน้ำมันมีปริมาณต่ำมากในระยะสั้น
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐลดลงรายสัปดาห์เป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ โดยลดลง 2 แท่น สู่ระดับ 443 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการผลิตน้ำมันที่ลดลง