สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหลังจากราคาน้ำมันร่วงลงกว่า 2% เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 พ.ย.นี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 82.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 26 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 84.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเข้าช้อนซื้อสัญญาน้ำมันดิบ WTI หลังจากราคาสัญญาร่วงลงอย่างหนักถึง 2.4% เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ยังคงปิดในแดนลบ เนื่องจากตลาดยังคงถูกกดดันจากการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 100,000 บาร์เรล โดยข้อมูลของ EIA สอดคล้องกับที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานก่อนหน้านี้ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นักลงทุนจับตาสถานการณ์ของอิหร่านอย่างใกล้ชิด หลังจากนายอาลี บาเกรี กานี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านเปิดเผยว่า อิหร่านจะกลับเข้าร่วมการเจรจากับประเทศตะวันตกอีกครั้งเกี่ยวกับการจำกัดโครงการนิวเคลียร์ภายในสิ้นเดือนพ.ย. ซึ่งสร้างความหวังว่าจะมีการฟื้นฟูการเจรจาที่หยุดชะงักไปตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
นายบาเกรี กานีเปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ว่า อิหร่านได้ตกลงที่จะเริ่มการเจรจาเกี่ยวกับการฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 หลังจากได้พูดคุยกันอย่างจริงจังและสร้างสรรค์กับนายเอนริเก โมรา ผู้เจรจาของสหภาพยุโรป (EU)
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 พ.ย.เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันสำหรับเดือนธ.ค.