ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ผลิตน้ำมัน 27.5 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนต.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้น 190,000 บาร์เรล/วันจากเดือนก.ย. แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าข้อตกลงที่กลุ่มโอเปกทำไว้ร่วมกันว่าจะเพิ่มการผลิตต่อวันไม่เกิน 254,000 บาร์เรล/วัน
รายงานระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้กลุ่มโอเปกผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นน้อยกว่าข้อตกลงนั้น เนื่องจากประเทศสมาชิกบางรายของโอเปกสมัครใจที่จะเพิ่มการผลิตไม่มากนัก ซึ่งช่วยชดเชยกำลังการผลิตที่สูงขึ้นจากซาอุดีอาระเบียและอิรัก
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดีดตัวขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.3% แตะที่ 84.99 ดอลลาร์/บาร์เรล และราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.2% แตะที่ 84.24 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้านี้
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสในวันที่ 4 พ.ย.นี้ เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันสำหรับเดือนธ.ค. ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า โอเปกพลัสจะยังคงมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. แม้ว่าหลายประเทศ เช่น สหรัฐและอินเดีย ต่างกดดันโอเปกพลัสให้เพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน