สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้ รวมทั้งผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสในวันพฤหัสบดีที่ 4 พ.ย.นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 83.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 84.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมัน WTI ปิดตลาดอ่อนแรงลงเนื่องจากแรงขายทำกำไร ซึ่งส่งผลให้ราคาสัญญาร่วงหลุดจากระดับ 84 ดอลลาร์
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จาก Wells Fargo Investment Institute แสดงความเห็นว่า ราคาน้ำมันดิบยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยคาดว่าแนวรับเฉลี่ยระยะเวลา 50 สัปดาห์ของสัญญาน้ำมันดิบ WTI จะอยู่ที่ 64.12 ดอลลาร์ และคาดว่าแนวต้านทางจิตวิทยาจะอยู่ที่ 90-100 ดอลลาร์ จนกว่าราคาจะพุ่งแตะนิวไฮ 107.95 ดอลลาร์ที่เคยทำไว้ในปี 2557
นักลงทุนจับตาการประชุมของโอเปกพลัสในวันที่ 4 พ.ย.เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันสำหรับเดือนธ.ค. ขณะที่คาดการณ์ว่าโอเปกพลัสจะยังคงมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. แม้ว่าหลายประเทศ เช่น สหรัฐและอินเดีย ต่างกดดันให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 ต.ค.