สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันที่ตึงตัว หลังจากที่ประชุมกลุ่มโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. แม้ว่าสหรัฐกดดันให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.46 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 81.27 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลงเกือบ 2.8% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.20 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 82.74 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 1.2% ในรอบสัปดาห์นี้
โอเปกพลัสยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า จะยังคงดำเนินการตามแผนในปัจจุบัน และเพิ่มการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนธ.ค.
บาร์บารา แลมเบรชท์ นักวิเคราะห์พลังงานของคอมเมิร์ซแบงก์ รีเสิร์ชเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า "กลุ่มโอเปกพลัสไม่ได้ทำตามข้อเรียกร้องของสหรัฐ, ญี่ปุ่น และอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้น้ำมันชั้นนำ ที่ต้องการให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตน้ำมันมากขึ้น"
"บรรดาผู้สังเกตการณ์ตลาดส่วนใหญ่คาดไว้ว่า โอเปกพลัสจะยังคงดำเนินนโยบายการผลิตในปัจจุบันต่อไป"
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาดด้วย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เพิ่มขึ้น 531,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 450,000 ตำแหน่ง จากระดับ 312,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย.
ส่วนอัตราการว่างงาน ปรับตัวลงสู่ระดับ 4.6% โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% จากระดับ 4.8% ในเดือนก.ย.