สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะชะลอตัวลงในอนาคต ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 80.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. 2564
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 82.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกจะชะลอตัวลงในอนาคต เนื่องจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นได้ดึงดูดให้การผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐ
อย่างไรก็ดี IEA ระบุว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐ แม้ว่าได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็จะยังไม่กลับสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 จนกว่าจะถึงช่วงปลายปี 2565
ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันในสหรัฐได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนในเดือนส.ค. แต่ปริมาณผลผลิตน้ำมันในสหรัฐมีสัดส่วนถึงครึ่งหนึ่งของการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกในเดือนต.ค. และจะแตะระดับ 60% ของการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศนอกโอเปกพลัสในปี 2565
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย
นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลง 2.5 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 พ.ย. ขณะเดียกวันคาดว่า สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1 แสนบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล