สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส อาจปรับแผนการผลิต หากสหรัฐและพันธมิตรทำการระบายน้ำมันออกจากคลังสำรอง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 76.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 79.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
สื่อต่างประเทศหลายแห่งซึ่งรวมถึงสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กลุ่มโอเปกพลัสอาจปรับแผนการผลิตน้ำมัน หากสหรัฐและพันธมิตรทำการระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองเพื่อกดดันราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยในการประชุมเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา โอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันสำหรับเดือนธ.ค.
ซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรอาจระบายน้ำมันรวม 100-120 ล้านบาร์เรลออกสู่ตลาด โดยสหรัฐจะระบายน้ำมัน 45-60 ล้านบาร์เรล, จีน 30 ล้านบาร์เรล, อินเดีย 5 ล้านบาร์เรล, ญี่ปุ่น 10 ล้านบาร์เรล และเกาหลีใต้ 10 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี คาดว่ามาตรการระบายน้ำมันจากคลังสำรองจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดเพียง 2-3 สัปดาห์
ทั้งนี้ สหรัฐพยายามโน้มน้าวให้ประเทศต่าง ๆ ระบายน้ำมันจากคลังสำรอง หลังจากที่โอเปกพลัสปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหรัฐที่ต้องการให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตน้ำมันมากกว่า 400,000 บาร์เรล/วัน
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย