สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) หลังมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่นักลงทุนจับตาท่าทีของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในการตอบโต้มาตรการของสหรัฐและประเทศพันธมิตรที่ตัดสินใจระบายน้ำมันดิบจากคลังสำรอง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 78.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 82.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 481,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 787,000 บาร์เรล
นักลงทุนจับตาท่าทีของกลุ่มโอเปกพลัส ในการตอบโต้มาตรการของสหรัฐและประเทศพันธมิตรในการระบายน้ำมันดิบจากคลังสำรอง โดยสหรัฐประกาศว่าจะระบายน้ำมันดิบจำนวน 50 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR)
ทั้งนี้ สหรัฐประกาศว่าจะร่วมมือกับจีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ หลังจากกลุ่มโอเปกพลัสปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหรัฐที่ต้องการให้เพิ่มการผลิตน้ำมันมากกว่า 400,000 บาร์เรล/วัน
ทางด้านนายโคอิชิ ฮากิอูดะ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ญี่ปุ่นจะระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองฉุกเฉินในปริมาณหลายแสนกิโลลิตร โดยมีเป้าหมายที่จะร่วมมือกับสหรัฐและประเทศพันธมิตรในการสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน
"ที่ผ่านมานั้น เราได้ทำงานร่วมกับสหรัฐเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันโลก และเราได้ตัดสินใจที่จะร่วมมือกับสหรัฐในการขายน้ำมันบางส่วนในคลังสำรองของเรา ซึ่งเราจะดำเนินการโดยไม่ละเมิดกฎหมายการสำรองน้ำมันในปัจจุบันของญี่ปุ่น" นายคิชิดะกล่าว
- ตลาดน้ำมันนิวยอร์กจะปิดทำการในวันนี้ (25 พ.ย.) เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day)