สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดิ่งลงมากกว่า 13% ในวันศุกร์ (26 พ.ย.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์ โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ดิ่งลง 10.24 ดอลลาร์ หรือ 13.1% ปิดที่ 68.15 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลงมากกว่า 10.4% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 9.53 ดอลลาร์ หรือ 11.59% ปิดที่ 72.72 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลงมากกว่า 8% ในรอบสัปดาห์นี้
ทั้งสัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลงวันเดียวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563 และปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา
สหราชอาณาจักรประกาศว่า จะเริ่มแบนเที่ยวบินจาก 6 ประเทศในแอฟริกาตั้งแต่ช่วงเที่ยงวันศุกร์ (26 พ.ย.) เป็นต้นไป
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐประกาศในวันศุกร์ว่า สหรัฐจะกำหนดข้อจำกัดด้านการเดินทางกับ 8 ประเทศในแอฟริกา อันเนื่องมาจากการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อว่า B.1.1.529 ซึ่งเป็นไวรัสที่อาจสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ โดยนักลงทุนกังวลว่าหากไวรัสสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดเป็นวงกว้างก็อาจทำให้หลายประเทศประกาศล็อกดาวน์รอบใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
นอกจากนี้ แคนาดาประกาศในวันศุกร์ห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางไปยังแอฟริกาใต้ในรอบ 14 วันล่าสุด ไม่ให้เข้าประเทศ
ทั้งนี้ ตลาดน้ำมันปรับตัวผันผวนอย่างหนักในวันศุกร์ เนื่องจากการซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบางในช่วงวันหยุดเทศกาลขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐ โดยตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการครึ่งวัน