สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส และรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 69.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 73.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมัน WTI ร่วงลงกว่า 13% ในวันศุกร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์ และทำสถิติทรุดตัวลงมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563 ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในแอฟริกาใต้
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนจะมีอาการไม่รุนแรง โดยยังสามารถรับรสและได้กลิ่น ซึ่งต่างจากอาการของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ที่พบก่อนหน้านี้
นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัส ในวันที่ 2 ธ.ค. โดยคาดว่าโอเปกพลัสอาจระงับการเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนม.ค.2565 เพื่อรับมือกับอุปสงค์ที่ลดลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโอไมครอน และเพื่อตอบโต้มาตรการของสหรัฐและประเทศพันธมิตรในการระบายน้ำมันดิบจากคลังสำรอง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย