สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 5% เมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) หลังจากผู้บริหารของบริษัทโมเดอร์นาเตือนว่าวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพลดลงในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 3.77 ดอลลาร์ หรือ 5.4% ปิดที่ 66.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. 2564
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.87 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 70.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาณน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงหลังจากนายสเตฟาน บันเซล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์เมื่อวานนี้ว่า เขาคาดว่าวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพลดลงในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน พร้อมกับเตือนว่า บรรดาบริษัทเวชภัณฑ์อาจต้องใช้เวลานานหลายเดือนจึงจะสามารถผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนได้อย่างเพียงพอ
ทางด้านฟิทช์ เรทติ้งส์ และมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสเปิดเผยว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นด้วย
เอเลนา ดักการ์ กรรมการผู้จัดการของมูดี้ส์เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน, เงินเฟ้อที่สูงขึ้น และปัญหาขาดแคลนแรงงาน
ด้านฟิทช์ เรทติ้งส์ระบุว่า "แม้ขณะนี้เรายังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงมากเพียงใด แต่ฟิทช์เชื่อว่าการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้ออันเนื่องมาจากผลกระทบของไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน จะทำให้การใช้มาตรการรับมือกับเศรษฐกิจในระดับมหภาคมีความซับซ้อนมากขึ้น"
นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 2 ธ.ค. ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่าโอเปกพลัสอาจระงับการเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนม.ค.2565 เพื่อรับมือกับอุปสงค์ที่ลดลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโอไมครอน และเพื่อตอบโต้มาตรการของสหรัฐและประเทศพันธมิตรในการระบายน้ำมันดิบจากคลังสำรอง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบโดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว