สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) หลังจากซาอุดีอาระเบียประกาศขึ้นราคาน้ำมันดิบที่ขายให้กับลูกค้าในเอเชียและสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 3.23 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 69.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ปิดที่ 73.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ได้ประกาขึ้นราคาน้ำมันดิบทุกเกรดประจำเดือนม.ค.ที่ขายให้แก่ลูกค้าในเอเชียและสหรัฐ โดยเพิ่มขึ้นสูงสุด 80 เซนต์จากระดับของเดือนก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความต้องการใช้น้ำมันยังคงแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันที่เกิดจากไวรัสโอไมครอน หลังจากนายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวกล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CNBC เมื่อวานนี้ว่า "แม้ดูเหมือนว่าเร็วเกินไปที่จะออกมาสรุปในเรื่องนี้ แต่นับจนถึงขณะนี้เรายังไม่มีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าไวรัสโอไมครอนก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรง"
ทางด้านกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสเปิดเผยว่า โอเปกพลัสยังคงเปิดช่องในการปรับเปลี่ยนนโยบายอย่างรวดเร็วตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหากอุปสงค์ถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน โอเปกพลัสก็พร้อมจัดการประชุมฉุกเฉินก่อนกำหนดเดิมในวันที่ 4 ม.ค.2565
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย