สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (10 ธ.ค.) และปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบกว่า 3 เดือน หลังนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่มีต่อเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 71.67 ดอลลาร์/บาร์เรล และพุ่งขึ้น 8.2% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 75.15 ดอลลาร์/บาร์เรล และพุ่งขึ้น 7.5% ในรอบสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนส.ค.
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น หลังนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยมีรายงานว่าวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และไบออนเทคจำนวน 3 โดสมีประสิทธิภาพสูงในการสร้างภูมิต้านทานไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน
ด้านนายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าไวรัสโอมิครอนก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรง
ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากภาวะชะงักงันของการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตก ซึ่งทำให้อิหร่านยังคงไม่สามารถกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลก
ทั้งนี้ การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกยังคงไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ขณะที่เยอรมนีเรียกร้องให้อิหร่านยื่นข้อเสนอที่สอดคล้องกับความเป็นจริงในการเจรจาโครงการนิวเคลียร์
นอกจากนี้ การที่ซาอุดีอาระเบียประกาศขึ้นราคาน้ำมันดิบประจำเดือนม.ค. 2565 สำหรับลูกค้าในเอเชียและสหรัฐ ก็เป็นการสะท้อนถึงความเชื่อมั่นด้านความต้องการใช้น้ำมันในตลาด